อีกหนึ่งสูตรความสำเร็จที่ต้องหยุดอ่าน PDDP…..ถอดรหัสความสำเร็จจากดารา นักแสดงและศิลปิน
“การแสดงที่ถึงบทบาทถึงอารมณ์ความรู้สึกเหล่านั้นล่ะที่ชนะใจผู้ชมทั้งประเทศดังทะลุฟ้าไปเลย ทำให้มีสปอนเซอร์มากมายพร้อมที่จะจ่ายเงินโฆษณาให้ ทีนี้กลับมาคิดดูว่า ถ้าเราสามารถสวมบทบาท ตีบทแตกและแสดงได้แนบเนียนเหมือนดารา นักแสดงและศิลปินเหล่านี้ในหน้าที่การงาน เราจะรุ่งขนาดไหนหนอ”
เรามักชื่นชมความสำเร็จจากนักธุรกิจระดับโลก และโดยเฉพาะผู้คิดค้นทางเทคโนโลยี(ระดับโลก) ก็เป็นสิ่งที่ถูกและต้องเป็นไปอย่างนั้น แต่บางครั้งดูเหมือนว่าจะไกลตัวเราสักหน่อย วันนี้อยากชวนมาเรียนรู้และชื่นชมความสำเร็จจากดาราและนักแสดงคนไทยใกล้ๆตัวเรามากมายและสามารถนำมาใช้ได้จริงเหมือนกัน
เคยสังเกตไหมว่า อะไรทำให้ผู้คนทั้งบ้านทั้งเมืองติดละครทีวีหลังข่าว หรือเป็นแฟนเพลงศิลปินชื่อดังของเมืองไทยมากมาย ทั้งนี้เป็นเพราะว่าดารา นักแสดงและศิลปินเหล่านั้นสามารถแสดงได้สมบทบาทที่เขาได้รับมอบหมายจากผู้กำกับ เขาตีบทแตก เขาทำได้เนียนมากจนแทบไม่มีตัวตนที่แท้จริงของเขาอยู่ในบทบาทนั้นเลย แต่ตัวตนที่แท้จริงของเขาคือศักยภาพที่เขาแสดงออกมา การแสดงที่ถึงบทบาทถึงอารมณ์ความรู้สึกเหล่านั้นล่ะที่ชนะใจผู้ชมทั้งประเทศ ดังทะลุฟ้าไปเลย ทำให้มีสปอนเซอร์มากมายพร้อมที่จะจ่ายเงินโฆษณาให้ ทีนี้กลับมาคิดดูว่า ในหน้าที่การงานชีวิตจริงของเรา ถ้าเราสามารถสวมบทบาท ตีบทแตกและแสดงได้แนบเนียนเหมือนดารา นักแสดงและศิลปินเหล่านี้ เราจะรุ่งขนาดไหนหนอ
จากรายการเพลงเอก แสดงโดยโต๋ ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร วันที่ 28 พฤศจิกายน 2563 (ทุกวันเสาร์ เวลา 20.15 น. ทางช่อง #WorkPoint23) สามารถเลาะถอดรหัสความสำเร็จที่น่าชื่นชมจากเพลงที่โต๋วแสดงในวันนี้ 2 เพลงคือ ฟลอร์เฟื่องฟ้า และ สุขกันเถอะเรา ได้เป็น PDDP คือ
Pride: ความภาคภูมิใจตัวเอง ในสิ่งที่ตัวเองเป็น ทำให้เกิดความมั่นใจในตัวเอง และใช้สิ่งที่ตัวเองมีเป็นฐานในการเติบโต โต๋มีคุณพ่อเป็นหัวหน้าวงดนตรีแกรนด์เอ็กซ์ที่เคยโด่งดังมากในอดีตชื่อ นคร เวชสุภาพร ก่อนหน้านี้ โต๋เก็บตัวไม่ได้ออกมาโชว์ความสามารถเหมือนทุกวันนี้ เมื่อโต๋ออกสู่สายตาประชาชน ก็ได้รับการต้อนรับที่อบอุ่นเสมอมาด้วยฝีมือนักเปียโนระดับชาติ และเป็นที่รักและชื่นชอบของประชาชนมากขึ้นเมื่อโต๋นำเสนอการร้องเพลงซึ่งเป็นอีกความสามารถยิ่งใหญ่ที่ค้นพบกับตัวเอง ความภาคภูมิใจ เห็นคุณค่าตัวเองคือพลังสูงสุดของมนุษย์ในการขับเคลื่อนไปหาทุกสิ่งที่ต้องการ Difference: ทำให้แตกต่าง โลกปัจจุบันแข่งกันที่ความเร็วและความแตกต่าง นั่นคือความสามารถในการตอบสนองได้อย่างรวดเร็วกับ Disruption ต่างๆที่มนุษย์เองเป็นผู้สร้างขึ้นมาเช่น เทคโนโลยี แล้วมนุษย์ก็วิ่งตามจับสิ่งที่ตัวเองสร้างขึ้น รวดเร็วอย่าเดียวยังไม่พอ ต้องแตกต่างด้วย ความแตกต่างคือมูลค่าเพิ่มที่มอบให้กับลูกค้า สังคม ประเทศและโลกใบนี้ จากการแสดงของโต๋ครั้งนี้ โต๋นำความแตกต่างที่น่าทึ่ง ชื่นชมมาส่งมอบให้ผู้ชม เป็นการแสดงของศิลปินคนหนึ่งที่เป็นทั้งนักเปียโน นักร้องและนักแสดงในคนเดียวกัน ผสมผสานเชื่อมโยงพรสวรรรค์และความสามารถได้อย่างพอดี (จุดดุลยภาพของความสมบูรณ์แบบ) เป็นการแสดงที่น่าตื่นเต้น ต้องเดาว่าต่อไปจะเป็นอะไร เชิญชวนให้ติดตาม มีความยืดหยุ่นและเปิดรับความท้าทาย (รอจังหวะและทีม dancer เพื่อไปพร้อมกัน) คุณลักษณะตรงนี้คือมีความเป็น Agility คือคล่องตัวสูงมาก ของผู้ชนะในยุค VUCA นั่นเอง
Depth: ความรู้จริง รู้ลึก รู้กว้าง สามารถนำความรู้และทักษะนั้นมาปรับใช้ได้อย่างสอดคล้องงดงาม ในการทำงาน เราต้องรู้จริงๆว่าสิ่งที่เรากำลังทำคืออะไร ที่มาที่อยู่ที่ไปคืออะไร รู้แม้กระทั่งรู้ว่าเรายังไม่รู้อะไรอีก(ในงานที่ทำ) รู้ ตระหนัก ยอมรับ และเติมให้เต็มหรือมากที่สุดเท่าที่จำเป็นสำหรับงานนั้น เราอาจไม่รู้ทุกสิ่ง เราสามารถขอความช่ววยเหลือผู้อื่นได้ เป็นการเปิดทางให้เขาเป็นผู้ให้ ความรู้จริงตรงนี้คือการจดจ่อ (Focus)ทำให้เกิดความมั่นคงและมั่นใจในการแสดงออกอย่างเต็มที่ สำหรับโต๋วในโชว์นี้ ไม่ต้องอธิบายอะไรเลย โต๋แสดงให้เห็นทุกบริบทที่กล่าวมาข้างต้นอย่างชัดเจน ตั้งแต่เพลงเริ่ม การผสมผสานตัวโน๊ตทำนองเพลง การเล่นเปียโนแบบมืออาชีพ การร้อง การแสดงออก การเต้น ทุกลีลาแสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้รู้ลึก รู้จริง ของโต๋
Participation: การให้พื้นที่ผู้อื่นมีส่วนร่วม เป็นการสร้างการร่วมเป็นเจ้าของ การเคารพผู้อื่น การเป็นกลุ่มเดียวกัน สนับสนุนกัน จะเห็นได้ว่าทั้งผู้ชม นักดนตรี กรรมการ ผู้แข่งขัน และ dancer ในรายการนี้มีส่วนร่วมกับการแสดงของโต๋ในบริบทของตนเองทั้งสิ้น สิ่งที่เห็นได้ชัดคือ การชื่นชม การร่วมสนุก รื่นรมย์ไปกับดนตรี การร้องและการแสดงของโต๋ ส่งสายตาให้ผู้ชมของเขาอย่างร่าเริง อ่อนโยนและเชิญชวนให้มีส่วนร่วมด้วย ถ้าเราสร้างบรรยากาศในการทำงานให้เป็นอย่างนี้ ผู้คนรอบข้างที่ทำงานด้วยและตัวเราเองจะมีความสุข สนุกกับงานขนาดไหน และแน่นอน ไม่ต้องพูดถึงผลลัพธ์ว่า จะเป็นอย่างไร อาจมีความคิดว่า จะทำได้อย่างไร มันคนละอารมณ์ คนละเรื่องกัน เราสามารถทำทุกอย่างได้แน่นอนถ้าเราผ่าน P D D 3 ตัวข้างต้นมาแล้ว กว่าโต๋จะแสดงได้อย่างนี้ โต๋ก็ผ่าน P D D ของโต๋เองมาแล้วเช่นกัน
อ่านแล้วข้อความนี้แล้ว หากท่านจะนำ PDDP ไปใช้เพื่อความสำเร็จ ท่านรู้สึกหรือคิดอย่างไรบ้าง